หลายท่านนึกสงสัยว่า เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ มีเดีย เพลเยอร์ ทำงานยังไง วันนี้ผมจะอธิบายให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
โดยขอปูพื้นฐานเรื่องความจุของที่เก็บข้อมูลก่อนครับ
เริ่มจาก เทป - VCD - DVD - Blu ray โดยความจุของแต่ละชนิดใหญ่ไม่เท่ากันครับ (ผมขอเริ่มจากวีซีดีนะครับ)
1. VCD จะใส่ข้อมูลได้ 700 Mb
2. DVD5 จะใส่ข้อมูลได้ 4.7 Gb ซึ่งเป็นเลเยอร์เดียว(ชั้นเดียว) และ DVD9 เป็น 2 layer จะใส่ข้อมูลได้ประมาณ 9 Gb ครับ
3. Blu ray จะใส่ข้อมูลได้ 25 Gb ที่ layer เดียว และ 2 layer จะได้ 50 Gb ครับ (ซึ่งปัจจุบันจะทำออกมาเป็น 2 layer เลยครับ)
ซึ่งภายในจะบรรจุข้อมูล 0101 (เป็น digital) ไว้ครับ จากนี้ก็ให้นึกถึงกระดาษม้วน(ทิชชู่ไว้ครับ) มันคือการบันทึกข้อมูล 0101 เป็นเส้นตรงแล้วม้วนจากวงในถึงวงนอกได้ความยาว 700 Mb, 4700 Mb(4.7Gb) , 50 Gb ครับ โดยความต่างของมันคือ ความหนาของกระดาษทิชชู่ครับ (หลายท่านก็คงเคยนึกสงสัยว่า แผ่น VCD, DVD , Blu ray ก็แผ่นกลมๆ เท่ากันทำไมมันถึงต่างกัน) คือมันต่างเพราะความหนาของร่องข้อมูลของแผ่น VCD มันหนาครับ ทำให้พันจากแกนในถึงสุดขอบนอก ยาวได้แค่ 700 Mb ครับ จากนั้นก็หลักการเดียวกัน DVD ก็มีร่องข้อมูลที่บางกว่าจึงพันได้ยาวกว่า VCD ครับ แต่ Blu ray จะต่างออกไปจากนี้นิดนึงตรงที่ว่า การอ่านข้อมูลในแผ่น VCD หรือ DVD ก็ตาม จะใช้แสงสีแดงเป็นเลเซอร์อ่านข้อมูลในแผ่น VCD และ DVD แต่ Blu ray นั้นได้ข้ามขีดจำกัดไปโดยการเปลี่ยนแสงในการอ่านให้เป็นแสงสีน้ำเงินซึ่ง แสงสีน้ำเงินมีขนาดเล็กกว่าแสงสีแดงครับ ทีนี้แหละจึงทำให้ร่องข้อมูลในบรูเลย์บางลงครับ เลยทำให้ได้ความยาวที่มากกว่าและสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า DVD ออกมาในตลาดครับ
แต่ถึงกระนั้น ใครจะอยากบรรจุข้อมูลในแบบ blu ray ล่ะครับ เพราะเราก็มี HDD ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นทาง sony ก็เลยเอามาตรฐาน blu ray นี้ไปให้กับโรงถ่ายหนังทั่วทั้งโลกครับว่า ต่อไปนี้ หนังที่แต่ละค่ายถ่ายทำอยู่จะสามารถทำให้ชัดได้แบบเหมือนต้นฉบับโดยไม่ต้องย่อให้เมื่อยตุ้มอีกแล้วเพราะ blu ray
ทีนี้ทุกท่านเริ่มเข้าใจความเป็นไปเป็นมาของการบันทึกข้อมูลลงแผ่นแล้วนะครับ จากนั้นให้เรามาดูรอบตัวเราครับ ปัจจุบันนี้โลกได้หมุนไปด้วย technology ที่ไม่เคยหยุดจนกระทั้งมีคนคิดค้น bit torrent (บิท ทอเร้นท์) ขึ้นมาครับ ไอ้ bit torrent นี้ทำให้โลกของเราแคบลงเลยครับเพราะ เราจะสามารถโหลดอะไรก็ได้จากในโลกนี้โดยที่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ครับว่าใครเป็นคนปล่อย file (ไว้มีเวลาวันหลังจะมาอธิบายการทำงานของ bit torrent นะครับ) และด้วยค่าลิขสิทธิ์ที่ Blu ray ทำออกมาแพงต่อแผ่นเหลือเกินจึงเกิดมีคนใจดีในโลกเรานี้ ยอมซื้อหนัง Blu ray มา 1 แผ่น แล้ว ก๊อปออกมาเป็น file จากนั้นก็ปล่อย file เข้าไปในระบบ bit torrent จึงทำให้คนทั่วโลกสามารถได้ file หนังแบบ blu ray มาเก็บไว้ที่บ้านครับ
ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องตามหัวข้อดีกว่าครับ
จริงๆแล้วการทำงานของเครื่อง Blu-ray เป็นลักษณะ
1.มีแผ่น Blu-ray ใส่เข้าไปในเครื่อง แล้วก็มี
2.หัวอ่านแสงสีฟ้า (มันถึงชื่อบลูเรย์) อ่านแผ่น (การอ่านออกมาเป็น 0101)
3.ก็ออกมาเป็น ซอฟไฟล์ จากนั้นก็
4.เอาไปประมวลผลที่เมนบอร์ด แล้วก็
5.ขับออกมาเป็นภาพ
ซึ่งเครื่อง HDD media player นั้นตัด 2 ข้อแรกออกครับ ได้มาเป็น file หนังที่มีบรรจุอยู่ใน HDD แล้วก็ประมวลผลออกมาเป็นภาพครับ
ทีนี้เครื่องตัวนี้ดีกว่า DVD ยังไง ง่ายๆครับ คือ สามารถขับภาพได้ 1080P ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่ทีวี LCD ของทุกค่าย สามารถขับได้ ซึ่ง DVD ก็ได้แค่ 480 หรือ 576 เส้นครับ และถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง blu ray ล่ะ หลายท่านอาจจะประสบเหตุการณ์แบบนี้
oเก็บจนไม่มีที่แล้ว
oหาแผ่นไม่เจอเพราะเยอะเกิน
oแผ่นเป็นลอยพอใช้ไปมากๆ
ดังนั้นคนที่รักหนังก็จะรู้สึกว่าไม่อยากจะเก็บแผ่นแล้ว และโลกปัจจุบันก็มีเรื่องการเซฟหนังเป็น soft file (ซอฟไฟล์)ใส่ฮาร์ดดิสก์ จะได้ไม่มีเน่าเสีย ไม่เป็นรอย ไม่ใช้พื้นที่เยอะ ซึ่งตอนนี้ เทรนของคน ส่วนมากก็เซฟแผ่นเป็น ซอฟไฟล์ ไว้ใน ฮาร์ดดิสก์กันเยอะแล้ว
และจากที่ตอนนี้มี อาชีพใหม่เกิดมาในประเทศไทยคือ รับขาย file หนังแบบ blu ray กิ๊กละบาท เรื่องนึงก็ประมาณ 10 กิ๊ก ครับ ซึ่งก็ตกประมาณ 10 บาทต่อเรื่อง ซึ่งทำให้การดูหนังของเรามีคุณค่าในการดูมากขึ้น ชัดมากขึ้น และต้นทุนหนังแต่ละเรื่องก็ถูกลงครับ
ขอบคุณมากครับที่เสียสละเวลาอ่าน แล้ววันหลังผมจะมาสรุปให้อ่านเรื่องอื่นๆต่อนะครับ
ที่มา :
http://www.boransat.net/board/index.php?topic=12587.0